♦ มารู้จัก จำนอง และ ขายฝาก กันก่อนดีกว่า
จำนองคืออะไร ??
จำนอง คือ การทำสัญญากู้เงินโดยนำหลักทรัพย์เป็นโฉนดที่ดินไปค้ำประกัน แต่ไม่มีการโอนกรรมสิทธิ์แต่อย่างใด หมายความว่าหากผู้กู้ไม่ชำระหนี้ ผู้ให้กู้ไม่มีสิทธิ์ในที่ดินนั้นๆ ต่อเมื่อฟ้องร้องต่อศาล ให้ศาลเป็นผู้ดำเนินการ
ขายฝาก คือ อีกหนึ่งการทำสัญญากู้เงิน ซึ่งมีหลักทรัพย์เป็นโฉนดที่ดินค้ำประกัน โดยมีการโอนกรรมสิทธิ์เป็นชื่อผู้รับซื้อฝาก คือเมื่อใดที่ครบกำหนดวันไถ่ถอนหลักทรัพย์ ผู้ขายฝากไม่ทำการชำระไถ่ถอนทรัพย์ หลักทรัพย์นั้นจะตกเป็นของผู้รับซื้อฝากทันที
ความแตกต่างในเงื่อนไขของการจำนอง และการขายฝาก
- วงเงินที่ได้รับ
- จำนอง : ไม่เกิน 30%
- ขายฝาก : ไม่เกิน 70%
- กรรมสิทธิ์ในโฉนดที่ดิน
- จำนอง : ไม่ต้องโอนกรรมสิทธิ์เพียงแต่ใช้เป็นค้ำประกันเท่านั้น
- ขายฝาก : ต้องโอนกรรมสิทธิ์เป็นชื่อผู้รับซื้อฝาก
- กรณีทำผิดสัญญา
- จำนอง : หากครบสัญญาแล้ว ลูกหนี้สามารถจ่ายดอกเบี้ย เพื่อขอต่อเวลาได้อีกไม่เกิน 5 ปี หรือผู้รับจำนองจะฟ้องศาลเพื่อบังคับคดี แล้วให้กองบังคับคดีประมูลขายทรัพย์สินเพื่อนำเงินมาชำระหนี้ ซึ่งระหว่างที่มีการฟ้องร้อง หลักทรัพย์นั้นจะไม่สามารถนำมาขายได้
- ขายฝาก : ผู้ขายฝากต้องมาไถ่ถอนภายในกำหนดที่ตกลงกันไว้ในสัญญา หากเลยกำหนดวันไถ่ถอน ตามกฏหมายสามารถขยายเวลาขายฝากกี่ครั้งก็ได้ แต่รวมกันแล้วต้องไม่เกิน 10 ปี แต่หากไม่มีการเจรจาเลื่อนกำหนด/สัญญา หลักทรัพย์จะตกเป็นของผู้รับซื้อฝากทันที
- ค่าธรรมเนียม ณ กรมที่ดิน
- จำนอง : 1% ของราคาจดจำนอง แต่ไม่เกิน 200,000 บาท
- ขายฝาก : 2% ของราคาประเมินของกรมที่ดิน
ดอกเบี้ยของทั้งการจำนองและขายฝากอยู่ที่ไม่เกิน 15% ต่อปี
ดังนั้นก่อนจะทำสัญญาอะไรก็แล้วแต่ควรศึกษาในเรื่องของ สัญญา, วงเงิน, ดอกเบี้ย, ระยะเวลา อย่างละเอียดและเข้าใจตรงกันทุกฝ่ายเพื่อป้องกันการเกิดปัญหาขึ้นในภายหลัง
นอกจากนี้การขายฝากผ่านสมาร์ทฟินน์สามารถมั่นใจได้ว่าได้รับการดูแลจากมืออาชีพด้านหาเงินทุนให้กับลูกค้า ให้ได้คู่สัญญา กับข้อตกลงที่ดีที่สุด บริษัทที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าทั่วประเทศ เพื่อหาทางออกสำหรับเงินทุนที่มาไถ่ถอนหรือเปลี่ยนนายทุน สนใจปรึกษาคลิก และปลอดภัยไร้กังวล เนื่องจากดำเนินการภายใต้กฎหมายและทำสัญญาต่อหน้าเจ้าหน้าที่ ณ กรมที่ดิน